ในวันที่ 5 เมษายน, นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, ได้ประกาศว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการมีงานทำให้กับประชาชน ตามนโยบาย ‘ทักษะดี มีงานทำ’ ซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่เน้นย้ำการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน เช่น การปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน
เพื่อสนับสนุนแรงงานอิสระหรือฟรีแลนซ์, กระทรวงแรงงานได้จัดตั้งกองทุนเฉพาะเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเงินทุนในการซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์เพื่อประกอบอาชีพอิสระ แต่ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยมีเงื่อนไขการกู้ยืมดังนี้:
- ผู้กู้ต้องเป็นผู้รับงานที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน
- รายบุคคลสามารถยื่นคำขอกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท
- กลุ่มบุคคลสามารถกู้ได้ไม่เกิน 300,000 บาท
- อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 24 เดือน
- ระยะเวลาในการยื่นคำขอกู้จากตอนนี้ถึง 30 เมษายน 2567
- รายบุคคลต้องชำระหนี้ภายใน 2 ปี
- กลุ่มบุคคลต้องชำระหนี้ภายใน 5 ปี
นายคารมยังได้กล่าวถึงสถานการณ์การมีงานทำในไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2567 โดยมีผู้มีงานทำอยู่ที่ 39.13 ล้านคน จากประชากรวัยแรงงาน 58.18 ล้านคน, ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 66.52 ของประชากรวัยทำงาน โดยมีผู้ทำงานในภาคเกษตร 10.38 ล้านคน และผู้มีงานทำนอกภาคเกษตร 28.75 ล้านคน สามอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูงสุดคือ การทำเหมืองแร่และเหมืองหิน, ไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบปรับอากาศ, และศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการ
นายคารมได้เน้นย้ำว่าจำนวนผู้ว่างงานในประเทศในเดือนมกราคม 2567 อยู่ที่ประมาณ 4.32 แสนคน, หรือร้อยละ 1.09 ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานที่ต่ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศ, โดยในปี 2566 ไทยได้รับการจัดอันดับจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่ามีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดในโลก.
#การเงิน