ณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและภาคกลางตอนบน ทำให้ประชาชนและลูกหนี้ที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพื่อให้การช่วยเหลือลูกหนี้สถาบันการเงินในภาวะเร่งด่วนนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ธปท. จึงได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์และขอความร่วมมือจากสถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่สถาบันการเงินในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบตามความจำเป็น โดยครอบคลุมลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรืออยู่ในระดับสถานการณ์สาธารณภัยสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง
แนวทางการช่วยเหลือมีดังนี้:
- สินเชื่อบัตรเครดิต: สถาบันการเงินสามารถพิจารณาปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบให้ต่ำกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่พื้นที่นั้นถูกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย
- สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล: สถาบันการเงินสามารถพิจารณาเงื่อนไขวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินให้เกินกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดได้ เพื่อให้ลูกหนี้มีแหล่งเงินทุนฉุกเฉินเพียงพอสำหรับการฟื้นฟูความเสียหายอันเนื่องมาจากปัญหาสาธารณภัย โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ไม่เกิน 12 เดือน
- สินเชื่อทุกประเภท: สถาบันการเงินสามารถพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงการปรับเงื่อนไข เช่น ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยให้อนุมัติวงเงินดังกล่าวโดยเร็ว ไม่เกิน 12 เดือน
ธปท. คาดหวังว่าลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยจะได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยที่ไม่ใช่สถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อให้สามารถผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้ ลูกหนี้สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้โดยตรงจากสถาบันการเงินที่ท่านใช้บริการอยู่.
#ข่าวทั่วไป